---

ถังดับเพลิง (Fire Extinguishers)

ถังดับเพลิง (Fire Extinguishers) คือ อุปกรณ์ที่ใช้ป้องกันอันตรายที่เกิดเพลิงไหม้ หรือที่เรียกว่า “ไฟไหม้ หรือ อัคคีภัย” นั้นเอง ถังดับเพลิงนับเป็นสิ่งจำเป็นที่ควรมีติดโรงงาน อาคาร ร้านค้า และบ้าน เนื่องจากเพลิงไหม้สามารถเกิดได้ทุกที่ ทุกเวลา เมื่อเกิดความประมาท หรือการไม่รอบคอบ ในปัจจุบันถังดับเพลิงมีหลายประเภท เพื่อให้เหมาะสมกับการใช้งานและสถานการณ์เพลิงไหม้ที่มีสาเหตุเพลิงไหม้แตกต่างกันออกไป

ดังนั้นการเลือกซื้อถังดับเพลิง หรือ อุปกรณ์ดับเพลิง จำเป็นต้องคำนึงถึงสถานที่ที่จะนำไปติดตั้ง และต้องสอดคล้องกับเชื้อเพลิงที่ต้องการดับ เช่น ไม้ ผ้า กระดาษ น้ำมัน ก๊าซหุงต้ม ไฟฟ้าลัดวงจร หรือวัตถุไวไฟ ซึ่งจะถูกแบ่งออกเป็น 5 ประเภท คือ class A, class B, class C, class D และ class K

ถังดับเพลิงที่มีจำหน่ายในประเทศไทย ปัจจุบันมีอยู่ 7 ประเภทหลักๆ ซึ่งแต่ละประเภทจะมีประสิทธิภาพในการดับเพลิง และสารที่อยู่ในถังแตกต่างกันออกไป ได้แก่ ถังดับเพลิงชนิดผงเคมีแห้ง, ถังดับเพลิงชนิดโฟม, ถังดับเพลิงชนิดน้ำยาเหลวระเหย, ถังดับเพลิงก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์, ถังดับเพลิงชนิดน้ำ, ถังดับเพลิง wet chemical และถังดับเพลิงเคมีสูตรน้ำแรงดันต่ำ (Low Pressure Water Mist)

หากอยากรู้เพิ่มเติมเกี่ยวกับถังดับเพลิงแต่ละชนิด อ่านต่อได้ที่บทความ ถังดับเพลิงมีกี่ชนิด

ถังดับเพลิงใช้ดับเพลิงประเภทใดได้บ้าง

ไฟเกิดจากการรวมตัวของ 3 องค์ประกอบ ได้แก่ เชื้อเพลิง (Fuel) สิ่งที่สามารถติดไฟและลุกไหม้ได้, ความร้อน (Heat) ที่เหมาะสม อุณหภูมิที่สูงเพียงพอทำให้สารเชื้อเพลิงจุดไฟติดได้ และ อากาศ (Oxygen) เป็นตัวแปรสำคัญที่ทำให้เกิดการติดไฟ ทั้งนี้จำเป็นต้องมีองค์ประกอบครบทั้ง 3 องค์ประกอบ จึงจะทำให้เกิดเพลิงไหม้ได้ 

ความรุนแรงของเพลิงไหม้จะแตกต่างกันออกไปตามลักษณะของเชื้อเพลิงที่เป็นสาเหตุของการเกิดเพลิงไหม้ จึงทำให้เพลิงไหม้ถูกแบ่งเป็นประเภท ตามเชื้อเพลิงที่ติดไฟ ทั้งนี้การแบ่งประเภทเชื้อเพลิงช่วยให้เลือกใช้ถังดับเพลิงที่เหมาะสมที่สุดได้เมื่อต้องการดับไฟ โดยแบ่งประเภทของเพลิงไหม้เป็น 5 ประเภท ดังนี้ 

• เพลิงไหม้ประเภท A (Ordinary Combustibles) 

เป็นเพลิงไหม้ที่เกิดจากเชื้อเพลิงของแข็ง เช่น ไม้ ยาง พลาสติก กระดาษ ผ้า เป็นต้น เป็นเชื้อเพลิงที่สามารถพบได้ในอาคาร หรือ ที่พักอาศัยทั่วไป ซึ่งเพลิงไหม้ประเภทนี้สามารถดับได้ด้วยน้ำเปล่า

• เพลิงไหม้ประเภท B (Flammable Liquids) 

เป็นเพลิงไหม้ที่เกิดจากของเหลวติดไฟและก๊าซติดไฟ เช่น ก๊าซหุงต้ม น้ำมัน และก๊าซไวไฟ  เป็นต้น เป็นเชื้อเพลิงที่สามารถพบได้ในโรงงานอุตสาหกรรมที่เกี่ยวกับการผลิตเชื้อเพลิง น้ำมันหล่อลื่น และอุตสาหกรรมที่ผลิตสีบางชนิด เนื่องจากเพลิงไหม้ประเภท B เป็นเพลิงไหม้ที่จำเป็นต้องมีออกซิเจนอยู่รอบๆ จึงจะเกิดการลุกไหม้ ดังนั้นวิธีดับเพลิงไหม้ประเภทนี้จำเป็นต้องลดปริมาณออกซิเจนภายในบริเวณรอบๆ ลง 

• เพลิงไหม้ประเภท C (Electrical Equipment) 

เป็นเพลิงไหม้ที่เกิดจากอุปกรณ์ไฟฟ้า ที่มีกระแสไฟฟ้าไหลอยู่ เช่น ไฟฟ้าลัดวงจร เป็นต้น ส่วนใหญ่ของเพลิงไหม้ชนิดนี้มักมาจากการที่อุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ที่มีกระแสไฟฟ้าไหลผ่านตลอดเวลาชำรุด จึงทำให้เกิดไฟฟ้าลัดวงจร และเกิดเพลิงไหม้ในที่สุด การจะดับเพลิงไหม้ประเภท C จำเป็นต้องตัดระบบไฟฟ้าก่อนทำการดับเพลิงไหม้ทุกครั้ง เพื่อความปลอดภัย

• เพลิงไหม้ประเภท D (Combustible Metals) 

เป็นเพลิงไหม้ที่เกิดจากของแข็งหรือโลหะไวไฟ เช่น ไททาเนียม (Titanium) แมกนีเซียม (Magnesium) โพแทสเซียม (Potassium) และ อลูมิเนียม (Aluminium) เป็นต้น เป็นเชื้อเพลิงที่สามารถพบได้ในห้องทดลอง ห้องปฏิบัติการ และอุตสาหกรรมโลหะ โดยเพลิงไหม้ประเภท D ไม่สามารถดับได้ด้วยน้ำเปล่า

• เพลิงไหม้ประเภท K (Combustible Cooking) 

เป็นเพลิงไหม้ที่เกิดจากน้ำมันที่ใช้ในการประกอบอาหาร ไขมันสัตว์ เพลิงไหม้ประเภทนี้สามารถพบได้ตามครัวเรือน และร้านอาหารทั่วไป  

ประเภทของถังดับเพลิง

การเลือกซื้อถังดับเพลิง คุณควรเข้าใจและแยกประเภทของถังดับเพลิงให้มั่นใจเสียก่อนว่า ถังดับเพลิงแต่ละประเภทเหมาะที่จะใช้กับเพลิงไหม้ประเภทใด วิธีการใช้ถังดับเพลิงแต่ละประเภทใช้แบบใด และจำเป็นต้องคำนึงถึงขนาดเพื่อให้เหมาะสมกับการใช้งานตามขนาดของพื้นที่อีกด้วย  โดยถังดับเพลิงสามารถแบ่งได้ 6 ประเภท ดังนี้ 

ถังดับเพลิงชนิดco2

ถังดับเพลิงก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ (Carbon Dioxide Extinguishers) ในถังจะบรรจุก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ เมื่อฉีดออกมาจะมีลักษณะเป็นไอเย็นจัดของน้ำแข็งแห้ง (Ice dry) สามารถช่วยลดความร้อน และดับไฟบริเวณที่เกิดเพลิงไหม้ได้อย่างรวดเร็วข้อดีของถังดับเพลิงประเภทนี้ คือ จะไม่ทิ้งคราบสกปรกไว้ และปลายกระบอกฉีดกว้างเป็นพิเศษ 

ถังดับเพลิงชนิดco2 เหมาะสำหรับโรงงานที่มีไลน์การผลิตขนาดใหญ่ ห้องเก็บอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ และโรงอาหาร

ถังดับเพลิงชนิดเคมีแห้ง

ถังดับเพลิงชนิดผงเคมีแห้ง (Dry chemical) ในถังจะอัดก๊าซไนโตรเจนและบรรจุผงเคมีแห้ง สามารถดับเพลิงได้เกือบทุกประเภท ไม่ว่าจะเป็นเพลิงประเภท A B C หาซื้อได้ง่าย และราคาถูก โดยมีราคาเริ่มต้นที่หลัก 100 เป็นต้นไป แต่สามารถใช้ได้เพียง 1 ครั้งเท่านั้น เนื่องจากเมื่อเปิดใช้งานแล้วแรงดันจะตกทำให้ไม่สามารถใช้งานได้อีก ต้องส่งอัดบรรจุใหม่ทันที 

ถังดับเพลิงชนิดโฟม

ถังดับเพลิงชนิดโฟม (Foam Extinguishers) ในถังจะบรรจุโฟม เมื่อฉีดออกมาโฟมจะกระจายปกคลุมเชื้อเพลิงที่ลุกไหม้ทำให้ขาดออกซิเจน ช่วยลดความร้อนลง นอกจากนี้โฟมยังช่วยปกปิดพื้นผิวของน้ำมันได้ดี ถังดับเพลิงชนิดโฟมจึงเหมาะสำหรับ เพลิงประเภท A และ B แต่ไม่เหมาะกับการดับเพลิงประเภท C เนื่องจากโฟมสามารถนำไฟฟ้าได้ 

ถังดับเพลิงชนิดน้ำ

ถังดับเพลิงชนิดน้ำ (Water Extinguishers) ในถังจะบรรจุน้ำธรรมดาและก๊าซ เมื่อฉีดออกมาสามารถช่วยลดความร้อนของเชื้อเพลิงที่ติดไฟอย่างวัตถุของแข็ง เช่น พลาสติก ไม้ กระดาษ ผ้าได้ ดังนั้นถังดับเพลิงชนิดน้ำจึงเหมาะกับใช้เพลิงประเภท A 

ถังดับเพลิงชนิดน้ำยาเหลวระเหย

ถังดับเพลิงชนิดน้ำยาเหลวระเหย (Clean Extinguishers) ในถังจะบรรจุสารเคมีของเหลวที่มีความเย็นจัด เมื่อฉีดออกมาจะเป็นไอระเหย ซึ่งน้ำยาดับเพลิงชนิดนี้จะดับไฟโดยการตัดปฏิกิริยาลูกโซ่การเผาไหม้ของเชื้อ ทำให้เชื้อเพลิงดับลง นอกจากนี้น้ำยาดับเพลิงชนิดนี้มีคุณสมบัติในการขัดขวางปฏิกิริยาลูกโซ่การเผาไหม้ของเชื้อเพลิง ทำให้เพลิงไหม้สงบลง

ถังดับเพลิงชนิดน้ำยาเหลวระเหยเหมาะใช้ดับเพลิงประเภท A, B, C ข้อดีของถังดับเพลิงประเภทนี้คือ ไม่ทิ้งคราบสกปรก และไม่ทำลายอุปกรณ์ไฟฟ้า 

นอกจากนี้ถังดับเพลิงชนิดน้ำยาเหลวระเหยของ Santo Fire ใช้คือ น้ำยา HFC 236-fa ซึ่งมีคุณสมบัติเทียบเท่ากับน้ำยาฮาโลตรอน (Halotron I) ที่มีคุณสมบัติไม่มีสี เมื่อฉีดออกมาจะไม่ทิ้งคราบตกค้าง ไม่ก่อให้เกิดความเสียหายต่ออุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ และเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม และมีอายุการใช้งานนาน ซึ่งเหมาะกับการรักษาทรัพย์สินในห้องอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ 

ถังดับเพลิง wet chemical class k

ถังดับเพลิง wet chemical ในถังจะบรรจุ Potassium Acetate ที่ใช้ดับเพลิงไหม้ที่เกิดจากน้ำมันที่ใช้ภายในครัว ไขมันสัตว์ (เพลิงไหม้ประเภท K)

ถังดับเพลิงสูตรน้ำ

ถังดับเพลิงสูตรน้ำ (Low pressure water mist) หรือ ถังดับเพลิงสูตรละอองน้ำแรงดันต่ำ สามารถดับเชื้อเพลิงได้ 4 ประเภท ได้แก่ ประเภทA, B, C และ K จุดเด่นของถังดับเพลิงสูตรน้ำ คือ สามารถดึงความร้อนออกจากเชื้อเพลิงได้เร็วกว่าใช้น้ำปกติ ทำให้อุณหภูมิความร้อนเย็นตัวลด และสามารถป้องกันเพลิงปะทุซ้ำได้ นอกจากนี้น้ำยา Pureplus ทำมาจากน้ำบริสุทธิ์สูง ที่สามารถลดการเป็นสื่อนำไฟฟ้าได้

วิธีใช้งานถังดับเพลิงและข้อควรระวัง

เพลิงไหม้ส่วนใหญ่มักเกิดในช่วงหน้าร้อนที่มีอุณหภูมิสูงมากกว่าปกติ ซึ่งประเทศไทยเป็นเมืองร้อนย่อมมีโอกาสเกิดเพลิงไหม้สูง การรู้วิธีใช้งานถังดับไฟเบื่องต้น ทำให้คุณและคนที่คุณรักปลอดภัย เมื่อเกิดเหตุการณ์คาดไม่ฝันจากเหตุเพลิงไหม้ โดยวิธีการใช้ถังดับเพลิงง่ายๆ เพียง 4 ขั้นตอนเท่านั้น 

วิธีการใช้ถังดับเพลิง มีดังนี้

1. ดึงสกัดนิรภัยออกจากถังดับเพลิง หากถึงไม่ออกให้ใช้การบิดช่วย 
2. ปลดสายฉีดของถังดับเพลิงออกมา โดยจับที่บริเวณปลายสายและดึงออกมา
3. กดคันบีบของถังดับเพลิงเพื่อให้สารเคมีที่อยู่ในถังออกมา 
4. ส่ายหัวฉีด ชี้ไปที่ต้นเหตุของเพลิงไหม้ ไม่ควรฉีดไปที่ปลายเพลิง 

คำแนะนำในการดับเพลิง

• หากเกิดเพลิงไหม้อยู่ในที่ต่างระดับ ให้ฉีดจากข้างล่างขึ้นไปข้างบน
• เพลิงไหม้ที่เกิดจากกระแสไฟฟ้าและยังมีไฟฟ้าไหลอยู่ จำเป็นต้องตัดระบบไฟก่อนทำดับเพลิง  
• เพลิงไหม้ที่เกิดจากการรั่วไหลของน้ำ ให้ฉีดที่จากปลายทางที่น้ำมันรั่วไปยังจุดที่รั่วไหล 
• ทั้งนี้ระยะเวลาในการฉีดถังดับเพลิงจะขึ้นอยู่กับขนาดของถัง

อุปกรณ์ดับเพลิงของ santofire

เนื่องจากเพลิงไหม้มักเกิดเมื่ออากาศมีอุณหภูมิสูง และเป็นเหตุการณ์ที่สามารถเกิดขึ้นได้กับทุกครัวเรือน การซื้อถังดับเพลิง จึงเป็นสิ่งจำเป็นที่จะช่วยให้คุณและคนที่คุณรักปลอดภัยจากเหตุเพลิงไหม้ ทั้งนี้บริษัท ซานโต ไฟร์ โปรดักท์ จำกัด เป็นบริษัทนำเข้าและจัดจำหน่ายถังดับเพลิง อุปกรณ์ดับเพลิง และอุปกรณ์ความปลอดภัยส่วนบุคคลที่มีคุณภาพสูง และมีมาตรฐานสากลรับรอง 

รวมทั้งมีบริการติดตั้งระบบป้องกันอัคคีภัยครบวงจร ไม่ว่าจะเป็น ประตูหนีไฟ ระบบ Fire Alarm พร้อมทั้งบริการตรวจเช็คสภาพและให้คำปรึกษาเกี่ยวกับอุปกรณ์ดับเพลิงทุกชนิด และมีบริการฝึกอบรมดับเพลิงขั้นต้นและขั้นสูง รวมทั้งการฝึกซ้อมดับเพลิงและอพยพหนีไฟ ให้แก่บุคคลจากหน่วยงานต่างๆ หรือบริษัทที่ต้องการพัฒนาทักษะการดับเพลิงไหม้เมื่อเกิดเหตุการณ์ไม่คาดฝัน 

สำหรับผู้ที่สงสัยว่า “ถังดับเพลิงสามารถหาซื้อได้ที่ไหน” หากคุณกำลังมองหาถังดับเพลิง อุปกรณ์ดับเพลิง คุณภาพดี ราคาพิเศษ สามารถติดต่อสอบถามได้ที่เบอร์โทร 02-245-9560, 02-248-3087 ได้ตลอดวันจันทร์ - ศุกร์ เวลา 8.00 - 17.00 น. ยกเว้นวันหยุดนักขัตฤกษ์ จัดจำหน่ายโดยบริษัทซานโต ไฟร์ โปรดักท์ จำกัด ผู้นำเข้าอุปกรณ์ดับเพลิงที่รองรับโดยมาตรฐานสากล