---

คุณสมบัติของถังดับเพลิง wet chemical

ถังดับเพลิง wet chemical ออกแบบมาเพื่อดับเพลิงจากน้ำมันทำอาหารโดยเฉพาะ โดยมีคุณสมบัติ ดังนี้

• สามารถย่อยสลายได้ในธรรมชาติ
• ป้องกันไม่ให้ไฟกลับมาลุกติดอีกครั้ง
• ภายในบรรจุ Potassium Acetate ใช้ดับเพลิงไหม้ที่เกิดจากน้ำมันที่ใช้ภายในครัว

นอกเหนือจากการเป็นถังดับเพลิงในครัวแล้ว ถังดับเพลิง wet chemical ดับไฟได้ 2 ประเภท ได้แก่ เพลิง class A และ K ซึ่งแต่ละประเภทแบ่งประเภทเพลิงตามวัตถุที่ก่อให้เกิดเพลิงไหม้ โดย เพลิงไหม้ class A คือเพลิงไหม้ที่วัตถุเชื้อเพลิงที่เกิดจากของแข็ง เช่น ไม้ กระดาษ ผ้า พลาสติก ยาง เป็นต้น และ เพลิงไหม้ class K คือเพลิงไหม้ที่วัตถุเชื้อเพลิงที่เกิดจากน้ำมันที่ใช้ในการประกอบอาหาร เช่น ไขมันสัตว์ น้ำมันพืช น้ำมันจากไขมัน เช่นเดียวกับ ถังดับเพลิงสูตรน้ำ low pressure water mist (และ ถังดับเพลิงโฟม) แต่หากต้องการดับเพลิงประเภท C ซึ่งไม่สามารถดับได้จากคุณสมบัติของถังดับเพลิง wet chemical class K แล้ว สามารถใช้ถังดับเพลิงชนิดผงเคมีแห้ง, ถังดับเพลิง Co2 และถังดับเพลิงชนิดน้ำยาเหลวระเหย ที่ไม่เป็นสื่อนำไฟฟ้าในการดับเพลิง class C ได้

Santo Wet Chemical class k

บริษัท Santo Fire จำหน่ายถังดับเพลิง wet chemical class k ซึ่งประกอบไปด้วยน้ำยาชนิดพิเศษ Santo Wet Chemical ที่จะทำปฏิกิริยาเมื่อสัมผัสกับน้ำมันในการประกอบอาหาร เกิดเป็นแผ่นชั้นของวัตถุที่มีสภาพคล้ายฟองสบู่ มาปกคลุมผิวหน้าน้ำมัน เป็นเหตุให้ไฟดับลงได้ และป้องกันไม่ให้ไฟกลับมาลุกติดอีกครั้ง โดยปฏิกริยาดังกล่าวมีชื่อเรียกว่า saponification

ถังดับเพลิง wet chemical

ถังดับเพลิง wet chemical คือ เครื่องดับเพลิงที่บรรจุด้วยสารดับเพลิงประสิทธิภาพชนิดพิเศษที่ออกแบบมาสำหรับใช้ดับเพลิงที่เกิดจาก น้ำมันพืช น้ำมันสัตว์ หรือน้ำมันที่ใช้ในการประกอบอาหารอื่นๆ จึงนิยมติดตั้งถังดับเพลิง wet chemical ในบริเวณห้องครัว ปกติแล้วน้ำมันในการประกอบอาหารจะมีระยะเวลาที่นานในการสะสมความร้อนจนกว่าเชื้อเพลิงจะติดไฟได้ หากเชื้อเพลิงดังกล่าวติดไฟขึ้นมาแล้ว ก็จะเป็นไฟที่มีความอันตรายสูง และดับไฟได้ค่อนข้างยาก หากดับผิดวิธีอาจอันตรายจนถึงชีวิตได้ 

การใช้งานถังดับเพลิงชนิด wet chemical

วิธีใช้งานถังดับเพลิง wet chemicalใช้งานง่าย เพียง 4 ขั้นตอน ได้แก่ 

• ดึง สลักนิรภัยออกจากถังดับเพลิง หากถึงไม่ออกให้ใช้การบิดช่วย
• ปลด สายฉีดของถังดับเพลิง wet chemicalออกมา โดยจับที่บริเวณปลายสาย และดึงออกมา
• กด คันบีบของถังดับเพลิงเพื่อให้สารเคมีที่อยู่ในถังออกมา
• ส่าย หัวฉีด ชี้ไปที่ต้นเหตุของเพลิงไหม้ไม่ควรฉีดไปที่เปลวเพลิง

ถังดับเพลิง wet chemicalเหมาะสำหรับการใช้งานในสถานที่ที่มีการใช้งานน้ำมันพืช น้ำมันสัตว์ น้ำมันที่ได้จากไขมันโดยเฉพาะ คือ บริเวณห้องครัว ภัตตาคาร ร้านอาหาร ร้านสะดวกซื้อ โรงพยาบาล เป็นต้น

ข้อควรระวังในการใช้งานถังดับเพลิงชนิด wet chemical

• ไม่ควรเก็บบริเวณที่โดนแสงแดด ฝน รวมทั้งที่ที่มีอุณหภูมิความร้อน - ชื้นสูง 
• ควรระมัดระวังขณะใช้งาน เนื่องจากภายในถังบรรจุสารเคมี
• หลีกเลี่ยงการกระแทกในขณะใช้งาน และจัดเก็บ
• ห้ามดัดแปลง แก้ไข และใช้งานผิดประเภท 
• การใช้ถังดับเพลิงควรใช้งานให้ตรงกับประเภทเพลิงไหม้ เนื่องจากถังดับเพลิงแต่ละประเภทมีสารที่บรรจุในถังแตกต่างกัน การใช้ถังดับเพลิงผิดประเภทอาจก่อให้เกิดความเสียหายมากกว่าเดิม

ข้อดีของถังดับเพลิง wet chemical

• มีประสิทธิภาพสูง
• ถูกออกแบบมาสำหรับใช้งานในห้องครัวโดยเฉพาะ
• สามารถดับเพลิงประเภท A และ K ได้
• ย่อยสลายได้ในธรรมชาติ
• ไม่ก่อให้เกิดสารพิษ
• ป้องกันไม่ให้ไฟกลับมาลุกติดอีกครั้ง
• เมื่อฉีดสารเคมีออกมาจะเกิดปฏิกริยาทำให้ไขมันกลายเป็นแผ่นชั้นคลุมหน้าน้ำมันให้ไฟดับลง

ข้อเสียของถังดับเพลิง wet chemical

ถังดับเพลิง wet chemical ถูกออกแบบมาสำหรับใช้ในห้องครัวโดยเฉพาะ จึงทำให้ไม่สามารถดับเพลิงประเภทอื่นๆ ได้ เช่น เพลิงประเภท B C และ D จึงไม่สามารถดับเพลิงที่วัตถุเชื้อเพลิงเกิดจากของเหลว อุปกรณ์ไฟฟ้า และโลหะไวไฟได้ นอกจากนี้ หากน้ำอุปกรณ์ดับเพลิงประเภทอื่นมาดับเชื้อเพลิงจากน้ำมันอาจทำให้เกิดการกระเด็นของน้ำมัน ไฟกลับมาลุกติดอีกครั้ง หรืออันตรายจนถึงขั้นก่อให้เกิดการระเบิดได้

วิธีตรวจเช็คสภาพถังดับเพลิง wet chemical

ควรตรวจสภาพถังดับเพลิง wet chemicalอย่างน้อยทุกๆ 6 เดือน ผู้ตรวจสอบถังดับเพลิง wet chemicalจำเป็นต้องมีความรู้เบื้องต้นเกี่ยวกับถังดับเพลิงแต่ละประเภท ได้แก่ ตัวแทนจำหน่ายถังดับเพลิง หรือ เจ้าหน้าที่ความปลอดภัยในการทำงาน (จป.) โดยถังดับเพลิง wet chemicalสามารถตรวจสอบได้ ดังนี้

ตรวจสอบสลักและสายฉีด

ตรวจสอบว่าสายฉีดของถังดับเพลิง wet chemicalไม่มีรอยแตกร้าว ไม่อุดตัน ไม่หักงอ ตรวจสอบว่าสลักที่ติดอยู่กับคันบีบของตัวถังสามารถใช้งานได้ปกติ ไม่ขึ้นสนิท หากตรวจเช็คแล้วพบสิ่งปกติควรแก้ไขทันที

ตรวจสอบคันบีบและข้อต่อ

ตรวจเช็คสภาพคันบีบและข้อต่อของถังดับเพลิง ต้องไม่ขึ้นสนิม ไม่คดงอ หากพบว่าคันบีบ หรือ ข้อต่อของถังดับเพลิงผิดปกติจำเป็นต้องแก้ไข หรือส่งให้ตัวแทนจำหน่ายซ่อม

ตรวจสอบสภาพถังดับเพลิง

ตรวจสอบว่าตัวถังดับเพลิงต้องไม่บุบ บวม และไม่ขึ้นสนิม สภาพถังดับเพลิงปกติแล้วต้องมีกระดูกงู ฟอยล์สีเงิน ซีลล็อคเครื่องดับเพลิง สติ๊กเกอร์ที่แปะรอบตัวถังไม่ฉีกขาด สามารถอ่านฉลากและรายละเอียดการใช้งานได้อย่างชัดเจน

ตรวจสอบเกจมาตรวัด

จำเป็นต้องตรวจสอบเกจมาตรวัด โดยสามารถตรวจสอบได้จากเข็มที่อยู่ในเกจมาตรวัด หากเข็มอยู่ในแถบสีเขียวถือว่าถังดับเพลิงปกติ บริเวณกระจกไม่เป็นฝ้า ไม่แตกร้าว ไม่คดงอ หากผิดว่าเกจมาตรวัดผิดปกติ หรือชำรุดจำเป็นต้องแก้ไขทันที นอกจากนี้ยังควรระบุวันที่ในการตรวจสภาพในช่อง ว/ด/ป ของถังดับเพลงที่ตรวจ เมื่อตรวจเช็คสภาพถังดับเพลิง wet chemicalเรียบร้อยแล้วให้ผู้ตรวจลงชื่อ หรือ ลายเซ็นที่ช่องผู้ตรวจ

ถังดับเพลิง wet chemical class K ยี่ห้อไหนดี

ถังดับเพลิง wet chemical class Kในท้องตลาดนั้นมีหลายยี่ห้อทั้ง Santo, Victory Fire, Imperial, Buckeye แต่โดยมากแล้วมักจะเป็นถังดับเพลิงที่ได้มาตรฐานเช่นเดียวกัน ดังนั้นองค์ประกอบอื่นในการตัดสินใจเลือกซื้อจึงอาจเป็นการบริการหลังการขาย เพื่อให้เราสามารถใช้ถังดับเพลิง wet chemical สำหรับดับไฟ class K ได้อย่างมีประสิทธิภาพมากที่สุด ไม่ว่าเราจะติดตั้งไว้ที่ห้องครัว หรือที่อื่นๆอีกก็ตาม บริษัท ซานโต ไฟร์ โปรดักท์ จัดจำหน่ายถังดับเพลิง wet chemical class k มีน้ำยาชนิดพิเศษ Santo Wet Chemical ทำให้ดับเพลิงไหม้จากน้ำมันในการประกอบอาหารได้อย่างมีประสิทธิภาพ ทั้งยั้งเป็นสารที่ย่อยสลารได้ในธรรมชาติ เรายังมีผู้เชี่ยวชาญที่รู้ทุกเรื่องเกี่ยวกับถังดับเพลิง อุปกรณ์กู้ภัยทุกประเภท คอยให้คำปรึกษา พร้อมทั้งมีบริการตรวจเช็คสภาพถังดับเพลิง หากคุณกำลังมองหาถังดับ wet chemical เพื่อใช้ดับไฟ class K คุณภาพดี ราคาพิเศษ สามารถดูข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ หน้าเว็บ Santo Fire หรือติดต่อสอบถามได้ที่เบอร์โทร 02-245-9560, 02-248-3087 ได้ตลอดวันจันทร์ - ศุกร์ เวลา 8.00 - 17.00 น. ยกเว้นวันหยุดนักขัตฤกษ์