🔍 เปรียบเทียบความปลอดภัยต่ออุปกรณ์ไฟฟ้าและอิเล็กทรอนิกส์:
📌 1. ลักษณะการทำงานและการระเหยหลังฉีด
-
2-BTP: เป็นสารเหลวระเหยเร็ว (Clean Agent) เมื่อฉีดออกจากถังจะกลายเป็นก๊าซและระเหยไปหมดโดย ไม่ทิ้งคราบ ไม่เกิดความชื้น ไม่กัดกร่อน ชิ้นส่วนอิเล็กทรอนิกส์ หรือแผงวงจร ทำให้สามารถฉีดใส่อุปกรณ์ได้โดยตรง เช่น Server, UPS, ตู้คอนโทรล, กล้องวงจรปิด โดยไม่ต้องกังวลว่าอุปกรณ์จะเสียหาย
-
Halotron-I: แม้เป็น Clean Agent เช่นกัน แต่ประกอบด้วย ส่วนผสมของ HCFCs ซึ่งอาจเกิดการควบแน่นในบางกรณี และสารเติมแต่งบางตัวอาจเหลือคราบจาง ๆ เมื่อใช้ในพื้นที่ความชื้นสูง ทำให้ต้องระมัดระวังหากฉีดโดยตรงใกล้พอร์ตหรือแผงวงจร
-
HFC-236fa: แม้จะไม่กัดกร่อนและระเหยได้ดี แต่มี ค่าความดันไอสูง ทำให้บางระบบต้องใช้ถังแรงดันพิเศษ และเมื่อปล่อยในพื้นที่ปิดอาจก่อให้เกิด shock cooling (ความเย็นเฉียบพลัน) ที่อาจทำให้วัสดุพลาสติกหรือกระจกบางประเภทแตกร้าว
📌 2.การเป็นฉนวนไฟฟ้า (Dielectric Strength)
-
2-BTP: มีค่า dielectric strength สูง สามารถ ใช้ดับเพลิงใกล้แผงวงจร หรืออุปกรณ์ไฟฟ้าที่มีกระแสอยู่ได้ โดยไม่ก่อให้เกิด short circuit หรือ corona discharge
-
Halotron-I: อยู่ในระดับปลอดภัยเช่นกัน แต่อาจก่อการรบกวนทางไฟฟ้าระดับไมโครวัตต์ในสภาพแวดล้อมไฟฟ้าแรงสูง (เช่น ห้อง MCC)
-
HFC-236fa: มีคุณสมบัติเป็นฉนวนดี แต่ความดันสูงทำให้การฉีดพ่นแรงกว่า และอาจเกิด “การรบกวนกลไกละเอียด” เช่น พัดลมเล็ก, มอเตอร์, หรือสวิตช์แม่เหล็ก
📌 3. ปฏิกิริยาทางเคมีกับวัสดุต่าง ๆ
-
2-BTP: แทบไม่มีปฏิกิริยาเคมีกับวัสดุอิเล็กทรอนิกส์ทั่วไป เช่น ทองแดง อลูมิเนียม พีซีบี พลาสติก ทำให้เหมาะสำหรับใช้ซ้ำ ๆ ได้โดยไม่ต้องกังวลการสึกกร่อนในระยะยาว
-
Halotron-I: มีความเสี่ยงเล็กน้อยต่อการทำปฏิกิริยากับโลหะบางชนิด เช่น แมกนีเซียม เมื่อสัมผัสซ้ำ ๆ หรือค้างในระบบ
-
HFC-236fa: ไม่กัดกร่อนเช่นกัน แต่บางระบบอาจมีสิ่งเจือปนจากระบบท่อส่งที่ทำปฏิกิริยาเมื่อใช้ซ้ำหลายรอบในระบบดับเพลิงขนาดใหญ่
✅ สรุป:
หัวข้อ | 2-BTP | Halotron-I | HFC-236fa |
---|---|---|---|
ระเหยหมด | ✅ สูงสุด | ⚠️ ปานกลาง | ✅ |
ไม่กัดกร่อน | ✅ มาก | ⚠️ ขึ้นกับวัสดุ | ⚠️ เสี่ยงในสภาวะชื้น |
เป็นฉนวนไฟฟ้า | ✅ สูง | ✅ ปานกลาง | ✅ |
Shock cooling | ❌ ไม่เกิด | ❌ ไม่เกิด | ⚠️ อาจเกิด |
คราบหลังฉีด | ❌ ไม่มีเลย | ⚠️ บางสภาพแวดล้อม | ❌ ไม่มี |